ประวัติความเป็นมาของสถานีตำรวจภูธรร่องคำ

 ภายหลังรัชสมัยของพระเจ้าสุริยะวงษาธรรมิกราช (พ.ศ.2197-2255) แห่งราชอาณาจักรล้านช้าง ได้เกิดความขัดแย้งกับผู้ครองนครทำให้อาณาจักรล้านช้างถูกแยกออกเป็น 3 อาณาจักร คือ หลวงพระบาง เวียง-จันทน์ และจำปาศักดิ์ ทั้งนี้สืบเนื่องจากจาก เมื่อพระเจ้าสุริยะวงษาธรรมิกราชเสด็จสวรรคตแล้ว พญาเมืองแสนได้ทำการแย่งชิงราชสมบัติและปราบดาภิเษก ขึ้นเป็นกษัตริย์ ทรงพระนามว่า “พระเจ้าศิริบุญสาร” (พ.ศ.2310-2324) ในสมัยนั้นผู้นำลาวได้ไพร่พลอพยพจากอาณาจักรล้านช้างใน
ระยะเวลาไล่เลี่ยกัน จำนวน 3 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
           – กลุ่มพระนางสุมังคละ – พระครูโพนเสม็ด (ยาคูขี้หอม)
           – กลุ่มพระเจ้าโสมพะมิตร (พระยาไชยสุนทร เจ้าเมืองกาฬสินธุ์)
           – กลุ่มพระวอ – พระตา
         กลุ่มพระวอ-พระตา ได้อพยพผู้คนจากเวียงจันทน์ในปี พ.ศ.2310 ข้ามแม่น้ำโขงมาอยู่บ้านหินโง่ม(หนองคาย) แล้วอพยพมาอยู่ที่่เมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน (หนองบัวลำภู) และได้อพยพต่อไปอยู่ดอนมดแดงบ้านแจรแมดงอู่เผิ่ง(อุบลราชธานี)พระเจ้าศิริบุญสารทราบข่าวจึงได้ยกกองทัพมาตีและจับพระวอ-พระตาสำเร็จโทษเสีย แล้วกวาดต้อนเอาราษฎรกลับไปยังเวียงจันทน์ จึงมีราษฎรกลุ่มหนึ่งอพยพหลบหนีจากบ้านแจระแมดงอู่เผิ่งผ่านมาทางบ้าน สิงห์โคก สิงห์ท่า ดงโตนโต้น(ยโสธร) เข้ามาอยู่ทางฝั่งตะวันตกของลำห้วยกุดลิง(ห้วยทราย)ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี (พ.ศ.2367-2394) กลุ่มของราษฎรที่อพยพมาอยู่ทางฝั่งตะวันตกของห้วยทราย ได้แยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
           – กลุ่มที่ 1 ตั้งบ้านเรือนอยู่ทางทิศใต้ ชื่อว่า “บ้านยาง” (โนนตาปู่ปัจจุบัน)
           – กลุ่มที่ 2 ตั้งบ้านเรือนอยู่ทางทิศเหนือ ชื่อว่า “บ้านหัวขัว” (วัดปฐมแพงศรีปัจจุบัน)
           เนื่องจากบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านทั้งสองนั้นยังเป็นป่าดงอยู่ การไปมาสู่กันระหว่างหมู่บ้านมักมีอันตรายจากสัตว์ป่าอยู่เสมอ ประกอบกับราษฎรถูกฝูงช้าง เสือ มาทำลายบ้านเรือนอยู่บ่อยๆ ยากต่อการป้องกัน จึงได้รวมหมู่บ้านทั้งสองเข้าด้วยกันตั้งชื่อว่า “บ้านกุดลิง” ตามสภาพที่ตั้งบ้านในเวลานั้น ซึ่งมีลำห้วยหรือกุดที่มีน้ำขังอยู่ตลอดปี สัตว์ป่าต่างๆ ได้อาศัยเป็นที่ดื่มกินโดยเฉพาะฝูงลิงป่า ที่มีมากที่สุดในกุดน้ำแห่งนี้ จึงได้ตั้งชื่อว่าบ้านกุดลิง ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
          เมื่อแรกตั้งบ้านกุดลิงนั้น ผู้นำหมู่บ้านชื่อ “ราชาโกฏิ” มีภรรยาชื่อ “ อำแดงสี” ครั้นต่อมาบ้านกุดลิงได้เจริญขึ้น ทางราชการจึงให้บ้านกุดลิงขึ้นอยู่กับตำบลโพนงาม(ตำบลหนึ่งของอำเภอกมลาไสย) มีขุนโพนงามระดับโศกเป็นกำนัน ชุมชนบ้านกุดลิงได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ ราษฎรได้ตั้งบ้านเรือนแผ่ขยายออกไปทางทิศเหนือของหมู่บ้านเดิม ซึ่งเป็นบริเวณที่มีร่องน้ำไหลซึมอยู่ตลอดปี ราษฎรเรียกว่า “ ฮ่อมคำ ” หรือ “ฮ่องคำ” และกลายมาเป็น “ร่องคำ” ในปัจจุบัน
          สถานีตำรวจภูธรอำเภอร่องคำ เดิมเป็นพื้นที่อยู่ในความปกครองของ สภ.อ.กมลาไสย  จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อปี 2513   จึงได้ยกฐานะเป็น      สภ.ต.ร่องคำ และเจริญเติบโตตามลำดับดังนี้.-
           – ปี 2516 ยกฐานะเป็น สภ.กิ่ง อ. ร่องคำ มีนายตำรวจเป็นหัวหน้า
           – ปี 2522 สภ.กิ่ง อ.ร่องคำ มีหัวหน้าเป็นตำแหน่ง สว.
           – ปี 2534 สภ.กิ่ง อ. ร่องคำ มีหัวหน้าเป็นตำแหน่ง สวญ.
           – ปี 2536 ยกฐานะเป็น สภ.อ.ร่องคำ มีหัวหน้าเป็น สวญ.
           – ปี 2537 สภ.อ.ร่องคำ มีหัวหน้าเป็น รอง ผกก.ฯ 
           –  ปี  2547  สภ.อ.ร่องคำ   มีหัวหน้าเป็น   ผกก.ฯ   จนถึงปัจจุบัน